Condensor Microphone ว่องไวปานสายลม !



  จากที่ได้เกริ่นไปในโพสต์ Introduction to Microphone วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับไมโครโฟนชนิดสุดท้ายจากการแบ่งตามวิธีการทำงานหรือ Operating Principle ซึ่งก็คือ Condensor Microphone นั่นเอง

คำถามแรกคือ Condensor Microphone คืออะไร

Condensor Micropho
ne หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Capacitor เป็นไมโครโฟนที่ทำงานโดยการใช้หลักการเก็บและคายประจุไฟฟ้า

ก่อนที่จะรู้จักกับหลักการทำงานของมัน ต้องทำความเข้าใจกับกฎของเบนจามิน แฟรงคลินก่อนที่ว่า กระแสไฟฟ้าเกิดจากการไหลของอิเล็กตรอน หรือในอีกความหมายนึงคือ “เมื่ออิเล็กตรอนเคลื่อนที่ จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า”



แล้ว Capacitor คือ อะไร??

1 Year Hungary. Departure.

วันนั้นสนามบินคนเยอะมาก มีทั้งนักเรียนที่จะไปแลกเปลี่ยน เพื่อนๆและผู้ปกครอง ต่างยกทัพเครือญาติทั้งหลายมาส่ง จะเป็นช่วงที่พวกเด็กแลกเปลี่ยนลำบากใจมาก เพราะไม่รู้จะไปคุยกับใครก่อนดี จะไปคุยกับครอบครัวก็เกรงใจเพื่อน จะไปยืนอยู่กับเพื่อนก็อึดอัดสายตาญาติๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเสียใจ ความไม่แน่ใจ และความตื่นเต้น

What is game? เกมคืออะไร?

What is game? เกมคืออะไร?
                                                 *Salen, K. and E. Zimmerman. Rules of Play : GameDesign Fundamentals. The MIT Press. (2003)

         ในโลกยุคปัจจุบันอันเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ที่สามารถกระจายความรู้ต่างๆไปทั่วได้อย่างรวดเร็วนั้น หากจะพูดว่าคนแทบทุกคนที่อย่างน้อยมีคอมพิวเตอร์ใช้ต้องเคยได้ยินศัพท์คำว่าเกมก็คงไม่ผิดนัก

แล้วมันคืออะไรล่ะ?

Phantom Power พลังที่มองไม่เห็น !!??????


        จากที่ติดค้างกันไว้ ว่ากันด้วยเรื่องของ Phantom Power ....มันคืออะไร!?
พลังล่องหนงั้นเหรอ?? แล้วทำไมเราต้องเรียกมันว่า Phantom Power ล่ะ มาหาคำตอบกัน !


Score หลักภาษาในโลกของดนตรี

อะไรคือ Score ?


         Score นั้นหมายถึงรูปลักษณ์อักษรของงานดนตรีชิ้นหนึ่งๆ ที่แสดงโน้ตของเครื่องดนตรีต่างๆในบทเพลงพร้อมๆกันแบ่งเป็นหลายๆ Lines (บรรทัด) ซึ่งโดยปกติจะมีขนาดใหญ่กว่าโน้ต part ซึ่งหมายถึงโน้ตส่วนของเครื่องดนตรีหนึ่งๆเพียงอย่างเดียว ex. Score เพลง... for orchestra, Bassoon part.



Microphone ep.3 : Ribbon Microphone...บอบบางอย่างมีสไตล์



        จากรูป คิดว่าบางคนน่าจะเคยเห็น แต่คงไม่คุ้นตาเท่ากับ Dynamic Microphone นะครับ เพราะนี่คือ R44C ของ AEA เป็น Ribbon Microphone ซึ่งเกิดผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1931 (ช่วงก่อนยุคสงครามโลก) ซึ่งเริ่มใช้ในสถานีวิทยุและโทรทัศน์ เพื่อประกาศข่าวความเป็นความตายของคนบนโลกในแต่ละวัน ก่อนที่จะถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมดนตรีจนถึงปัจจุบัน

        ในโพสต์ที่แล้ว ที่ติดค้างกันไว้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Ribbon Microphone กันนะครับ ถ้าจะบอกว่า Dynamic Microphone เป็นไมค์ที่ทนทานที่สุด Ribbon ก็คงจะเป็นไมค์ที่บอบบางที่สุด ทำไมนะเหรอ? ลองมาดูกันเลย


Game Design กว่าจะเป็นเกม: หน้าที่ของ Game designer

อะไรคือ Game Design ?

         คนวาดกราฟฟิกหรอ ? หรือเป็นคนเขียนเนื้อเรื่อง หรือโปรแกรมเมอร์ หรือนู่น หรือนี่ เต็มไปหมด
เรามักจะเห็นคำว่า Design ใช้กับสิ่งที่เป็นรูปธรรม เช่น บ้าน สิ่งก่อสร้าง แล้วถ้ามาใช้กับเกมล่ะ ?

ว่าด้วยเรื่องของประตู
by Liz England, Game Designer at Insomniac


Creative Director: “เอาล่ะ เราต้องการประตูสำหรับฉากนี้"
Project Manager: “เดี๋ยวผมจะเขียนตารางงานสำหรับคนที่ต้องทำประตูให้นะ”
Designer: “ผมเขียนรายงานอธิบายว่าประตูสามารถทำอะไรได้บ้าง”
Concept Artist: “เห้ ดูรูปประตูพวกนี้สิ ผมลองวาดมาให้ดูกัน
Art Director: “รูปที่สาม รูปที่สามนั่นแหละคือประตูที่เราอยากได้”
Environment Artist: “แล้วผมก็สร้างประตูโดยใช้แบบจากรูปนั้น”
Animator: “ผมทำให้ประตูเปิดและปิดได้”
Sound Designer: “ผมออกแบบเสียงตอนที่ประตูเปิดและปิด”
Audio Engineer: “เสียงนั่นจะเปลี่ยนทิศทางและรูปแบบตามตำแหน่งของคนเล่นตอนที่เปิดประตู”

1 year Hungary. Prologue

"ไม่รีบสมัครหรอ ไปได้แค่ม.ปลายนะ"

"แน่ใจหรอ"

"อย่าเสียใจทีหลังละกัน"

Microphone ep.2 : Dynamic Microphone...The world's Toughest Mic.

Dynamic Microphone

         จากรูปด้านข้างนี้....ใช่ครับ นี่แหละ Dynamic Microphone ทุกคนน่าจะเคยเห็นไมค์ตัวนี้นะครับ ไม่ว่าจะในคาราโอเกะ เวที ห้องประชุม คอนเสิร์ต ไมค์ตัวนี้คือชื่อ SM 58 ครับ ยี่ห้อ Shure เป็น Dynamic Microphone ที่มียอดขายสูงที่สุดและทนทานที่สุด!!

 คำถามแรกๆที่คนชอบถามเลยคือ ทำไมถึงชื่อไดนามิค ไมโครโฟน??

ชื่อ Dynamic Microphone มีที่มาจากผลการทำงานของมัน ที่เป็น Dynamic Relationship หรือความสัมพันธ์ของความดังที่เท่ากัน (Amplitude) ระหว่าง Input และ Output...งงละสิ พูดง่ายๆว่า ความดังขาเข้า = ความดังขาออก....ได้ไง?....งั้นเรามาทำความรู้จักมันอย่างละเอียดกันเลยดีกว่า


จากที่ได้เขียนไว้ในโพสต์ที่แล้วว่า Dynamic Microphone จัดอยู่ในประเภท Electromagnetic Induction หรือการเหนี่ยวนำของแม่เหล็กไฟฟ้า....แล้ว....มันคืออะไรเนี่ย???

Welcome to the Horse's empire.

ทำไมต้องม้า ?


เริ่มจากกลุ่มเพื่อนสมัยม.ปลายที่ตอนนี้แตกกระจายกันไปเรียนต่ออยู่ในหลายๆประเทศทั่วโลก อยู่มาวันหนึ่งไม่รู้เกิดคึกอะไรขึ้นมา เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์และเกร็ดเล็กๆน้อยๆให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆพ่อๆแม่ๆ (เยอะไปละ) ได้อ่านกัน บางอย่างที่อาจจะถูกเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ หรือระบบการทำงานของบางอย่างที่อาจไม่เคยถูกอธิบายอย่างถูกวิธี


What is music ?

อะไรคือดนตรี ?

         ถ้าจะให้คำจำกัดความง่ายๆดนตรีคือแขนงหนึ่งของศิลปะที่ว่าด้วยเสียงทุกเสียงที่มนุษย์สร้างขึ้น
ด้วยความตั้งใจ และด้วยความไม่ตั้งใจ จุดประสงค์ของดนตรีมีอยู่หลายอย่าง เช่น เพื่อความบันเทิง เพื่อสรรเสริญ เพื่อสักการะ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ เพื่อยกระดับความคิดและจิตใจ และอีกมากมาย 

         ในอดีตมนุษย์สร้างดนตรีมาเพื่อสรรเสริญ, สักการะพระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่เขาเชื่อว่าอยู่เหนือธรรมชาติ และเพื่อขับไล่ความกลัวที่มีต่อความเงียบ โดยดนตรีในยุคนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการเลียนแบบเสียงในธรรมชาติ (ฟ้าผ่า เสียงสัตว์ etc.) 

         ในยุคต่อมาก็เริ่มทำดนตรีเพื่อความบันเทิง มีการใช้เพื่อประกอบการแสดง ใช้เพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆ ดนตรีได้ขยายขอบเขตให้สามัญชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และในที่สุดดนตรีก็ก้าวขึ้นมาสู่การเป็นศิลปะชั้นสูง มีการประสมวงของเครื่องดนตรีหลายๆชนิด เพลงที่แต่งขึ้นไม่ใช่เพียงเพื่อสักการะพระเจ้า แต่เป็นการสื่อเรื่องราวและอารมณ์ต่างๆ จากนักประพันธ์ลงในกระดาษ ต่อมาให้นักดนตรีตีความ และบรรเลงออกมา เพื่อให้ผู้ชมฟังและตีความอีกต่อหนึ่ง

Microphone Ep.1 : Introduction

Introduction to Microphone


บนโลกใบนี้ มี 2 สิ่งที่อยู่รอบตัวเราเสมอ นั่นคือ พลังงาน (Energy)  และ ข้อมูล (Information) ทุกๆวันในชีวิตประจำวัน เราต้องพบเจอกับพลังงานและข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

         มาเข้าเรื่องของเรากันเลยดีกว่า เสียงที่เราได้ยินนั้นเป็นพลังงาน... ไม่สิ ต้องพูดว่า "เสียงเป็นพลังงาน" แต่ “เสียงที่เราได้ยิน” นั่นคือ “ข้อมูล” 
ถ้าพูดแบบนี้ หมายความว่า มีอะไรบางอย่างที่เป็นสื่อกลางในการก้าวข้ามไปข้ามมาระหว่าง 2 อย่างนี้สิ!?... ใช่ เราเรียกสิ่งนั้นด้วยศัพท์เท่ๆว่า Transducer ซึ่ง Transducer ที่ใกล้ตัวเรา และติดมากับตัวเราตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนั่นคือ “หู” ของเรานั่นเอง


  โมเลกุลในอากาศชนกันไปมา นำพลังงานที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดเสียงมาสู่หูเรา เมื่อพลังงาน ผ่านเข้ามาถึง หูชั้นนอก ทำให้เยื่อแก้วหูสั่น (Tympanic Membrane) เปลี่ยนจากพลังงานเสียง​ (Acoustic Energy)  เป็นพลังงานกล (Mechanical Energy) ส่งไปยังหูชั้นกลางผ่านกระดูกค้อน,ทั่ง,โกลนขยายการสั่นสะเทือน ส่งต่อไปยังหูชั้นใน หูชั้นในเปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้าส่งไปยังสมอง ให้เรารับรู้ว่าเสียงที่เราได้ยินนั้นคือเสียงอะไร


เดี๋ยวๆๆ เรากำลังจะพูดถึงไมโครโฟนไม่ใช่เหรอ ?

Sound and Acoustic ep.2


Frequency

จากโพสต์ที่แล้ว ที่พูดไปคร่าวๆ คราวนี้จะลงรายละเอียดมากขึ้นนิดนึงนะครับ
Frequency หรือความถี่ คือจำนวนรอบของคลื่นเสียง (360°) ที่เกิดขึ้น ซึ่งในหนึ่งรอบ ประกอบไปด้วย จุดที่โมเลกุลเริ่มบีบตัว, จุดที่โมเลกุลบีบตัวสูงสุด, จุดที่โมเลกุลเริ่มคลายตัว และจุดที่โมเลกุลคลายตัวมากที่สุด เชื่อไหมว่า กระบวนการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นแสนๆครั้ง ใน 1 วินาที แต่หูของเรา รับรู้ได้แค่ 20-20,000 ครั้งต่อวินาทีเท่านั้น ทีนี้ มาทวนกันนิดนึงครับ สมมติว่า กดตัว A บนเปียโน ที่มีความถี่ 440Hz หมายความว่า ใน 1 วินาที โมเลกุลจะสั่น ชนกันไปชนกันมา 440 ครั้ง แต่ถามว่า จริงๆแล้ว มันมีแค่นั้นหรือ คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะ ความถี่ จริงๆแล้ว แบ่งเป็น 2 ส่วน


Sound and Acoustic ep.1

เสียง คือ อะไร???

    เป็นสิ่งแรกสำหรับคนที่จะเรียนด้าน Audio Engineering ควรรู้ไว้ ถ้าจะจำประโยคสั้นๆ ง่ายๆให้จำว่า  "เสียง คือ การสั่นสะเทือนของโมเลกุลในอากาศ "

    เสียง เป็นพลังงานที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของแหล่งกำเนิดเสียงใดๆก็ตาม (เช่น เครื่องดนตรี, เสียงของคน) ที่ผ่านตัวกลางต่างๆ (ของแข็ง ของเหลว ก๊าซ) ทำให้โมเลกุลของตัวกลางนั้นๆ ส่งพลังงานไปให้อีกโมเลกุลหนึ่ง (โดยการชนกันไปมา) จนกระทั่งเข้ามาถึงหูของเรา ผ่านกระบวนการแปลงจากการสั่นสะเทือน เป็นคลื่นไฟฟ้า ส่งเข้าสมอง สมองจะเป็นตัวตอบสนองต่อเสียงที่เราได้ยิน

นี้เป็นภาพ Animation ของการสั่นสะเทือนของโมเลกุลในอากาศ (ให้สังเกตจุดสีแดงๆ นะครับ)

http://www.acs.psu.edu/drussell/Demos/waves/wavemotion.html

จะเห็นว่าจริงๆแล้วโมเลกุลไม่ได้เดินทางไปไหน แค่ชนกันไปชนกันมา ส่งพลังงานจากโมเลกุลนึงไปอีกโมเลกุลนึงเท่านั้นเอง

อย่าลืมว่า ถ้าไม่มีตัวกลางใดๆ ก็จะไม่มีเสียง เช่นในอวกาศ .... แล้ว Star war คืออะไร ? = =

'Cus We are the "SOUND GUYS" !!!

         “Sound engineer” , “Producer” , “Sound Designer” , ช่างเสียง , คนเล่นเครื่องเสียง (คิดว่าใช้ศัพท์โบราณได้แค่นี้) อาจเป็นอาชีพในฝันของคุณ แต่รู้หรือไม่ ว่า อาชีพนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไรบ้าง ต้องเรียนอะไรบ้าง

จริงๆแล้ว เราเหมือนพวก "ลูกผสม" จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ก็ไม่ใช่ จะเป็นนักดนตรีก็ไม่เชิง เป็นวิศวกรเหรอ? ผมว่า...ก็ไม่ใช่นะ

        Paul Thomas ผู้เป็นอาจารย์ของผม ปัจจุบันสอนที่ RMIT University (เมลเบิร์น,ออสเตรเลีย) บอกว่า “เราไม่ใช่ Sound Engineer หรอก แต่เราคือ "Sound Guys" ต่างหาก! เราไม่สามารถจะอธิบายทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้เหมือนนักฟิสิกส์ แต่เราต้องรู้เรื่องพลังงาน เสียง แรงต่างๆพอสมควร เราไม่จำเป็นต้องสร้างและซ่อมได้ทุกอย่าง แต่เราต้องเข้าใจหลักการทำงานของมัน ต้องเข้าใจเรื่องไฟฟ้า เราไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเก่งระดับโลก แต่เราต้องฟังให้เป็นและรู้ว่าอะไรคือเสียงดีอะไรคือเสียงไม่ดี ที่แน่ๆ พวกเรารู้ว่าต้องวางไมค์ตรงไหนจะได้เสียงดีที่สุด วงดนตรีแนวนี้ จะมิกซ์ยังไงให้ได้เสียงที่ดีที่สุด ที่สำคัญคือเราจัดการกับปัญหาเรื่องเสียงต่างๆได้ ด้วยความรู้เหล่านั้น ” ผมว่ามันฟังเข้าท่ามากเลยนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่พวกเราเป็นอยู่หรืออาจเป็นสิ่งที่คุณอาจจะเป็น สรุปง่ายๆว่า พวกเรา “Sound Guys” เป็นลูกผสมระหว่างนักฟิสิกส์ นักทดลอง ช่างไฟฟ้า เซียนคอมพิวเตอร์ นักธุรกิจ นักดนตรีและครีเอเทฟ (+ มนุษย์ป้า) แน่นอนว่า กว่าที่เราจะมีเป็น Sound Guys ได้ จะต้องเรียนรู้มากมายหลายอย่างเลยทีเดียว