'Cus We are the "SOUND GUYS" !!!

         “Sound engineer” , “Producer” , “Sound Designer” , ช่างเสียง , คนเล่นเครื่องเสียง (คิดว่าใช้ศัพท์โบราณได้แค่นี้) อาจเป็นอาชีพในฝันของคุณ แต่รู้หรือไม่ ว่า อาชีพนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไรบ้าง ต้องเรียนอะไรบ้าง

จริงๆแล้ว เราเหมือนพวก "ลูกผสม" จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ก็ไม่ใช่ จะเป็นนักดนตรีก็ไม่เชิง เป็นวิศวกรเหรอ? ผมว่า...ก็ไม่ใช่นะ

        Paul Thomas ผู้เป็นอาจารย์ของผม ปัจจุบันสอนที่ RMIT University (เมลเบิร์น,ออสเตรเลีย) บอกว่า “เราไม่ใช่ Sound Engineer หรอก แต่เราคือ "Sound Guys" ต่างหาก! เราไม่สามารถจะอธิบายทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ได้เหมือนนักฟิสิกส์ แต่เราต้องรู้เรื่องพลังงาน เสียง แรงต่างๆพอสมควร เราไม่จำเป็นต้องสร้างและซ่อมได้ทุกอย่าง แต่เราต้องเข้าใจหลักการทำงานของมัน ต้องเข้าใจเรื่องไฟฟ้า เราไม่จำเป็นต้องเล่นดนตรีเก่งระดับโลก แต่เราต้องฟังให้เป็นและรู้ว่าอะไรคือเสียงดีอะไรคือเสียงไม่ดี ที่แน่ๆ พวกเรารู้ว่าต้องวางไมค์ตรงไหนจะได้เสียงดีที่สุด วงดนตรีแนวนี้ จะมิกซ์ยังไงให้ได้เสียงที่ดีที่สุด ที่สำคัญคือเราจัดการกับปัญหาเรื่องเสียงต่างๆได้ ด้วยความรู้เหล่านั้น ” ผมว่ามันฟังเข้าท่ามากเลยนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่พวกเราเป็นอยู่หรืออาจเป็นสิ่งที่คุณอาจจะเป็น สรุปง่ายๆว่า พวกเรา “Sound Guys” เป็นลูกผสมระหว่างนักฟิสิกส์ นักทดลอง ช่างไฟฟ้า เซียนคอมพิวเตอร์ นักธุรกิจ นักดนตรีและครีเอเทฟ (+ มนุษย์ป้า) แน่นอนว่า กว่าที่เราจะมีเป็น Sound Guys ได้ จะต้องเรียนรู้มากมายหลายอย่างเลยทีเดียว


    แต่สิ่งที่ทำให้ Sound Engineer แต่ละคนแตกต่างกัน คือความโดดเด่นของการผสมผสานสกิลทั้งหมดที่พูดมาข้างต้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเด่นในด้านนักดนตรี+นักฟิสิกส์+นักธุรกิจ+มนุษย์ป้านิดหน่อย อาจจะเป็น Sound Engineer ประจำวงร็อคชื่อดังที่เดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก, นักดนตรี+ ครีเอเทฟ+ นักธุรกิจ นักบริหาร อาจเป็น Music Producer ชื่อดัง , ช่างไฟฟ้า+ นักทดลอง+ นักธุรกิจ+ครีเอเทฟ  อาจเป็น Product Designer สำหรับอุปกรณ์ Pro Audio  ขายไปทั่วโลก , นักดนตรี+เซียนคอม+ครีเอเทฟ อาจเป็น Film Composer ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก , นักฟิสิกส์ นักทดลอง เซียนคอม อาจเป็น Acoustic Engineer ชื่อดัง รับงานออกแบบหอแสดงดนตรีหรือสตูดิโอที่มีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด, ครีเอเทฟ+ดนตรี+ฟิสิกส์+เซียนคอม อาจเป็น Sound Designer ผู้ออกแบบเสียงให้กับภาพยนต์ดังๆหรือเกมส์ที่ฮิตกันไปทั่วโลก เห็นมั้ยว่า Sound Guys เป็นได้ตั้งหลายอย่างนะ และยังมีโอกาสรวยมากๆด้วย 

    แต่!!!!! มันก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก "Sound Guys" ก็ยังมีมุมที่น่าสงสารอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องโดนวงดนตรีด่าว่ามิกซ์เสียงไม่ดี ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของเค้า (บางทีคนเล่นมันห่วย แล้วเสียงมันจะดีได้ไง) หรือ แม้จะมิกซ์ดี คนที่จะได้รับคำชมคือนักดนตรี หรือจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ที่แพงแสนแพง แต่เวลาทำงานกลับได้ค่าตอบแทนมาน้อยนิด หรือจะเป็นคนที่ลงทุนเปิดห้องอัดดีๆ ซื้อไมค์ตัวเป็นแสน มิกเซอร์เป็นล้านๆ แต่ได้ค่าเช่าห้องชั่วโมงละ 500 บาท T^T

    น่าเศร้าใช่ไหมครับ...แต่ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะสิ่งสำคัญคือเราควรเชื่อมั่นในอาชีพที่เรารัก และเลือกจะทำ เมื่อนั้นเงินทองจะไม่ใช่อุปสรรค เราจะทำงานด้วยใจและจะทำงานได้ดี จะมีคนกล่าวถึง งานก็จะไหลมาเทมา และแน่นอน งานมา เงินต้องมา 


    “ Sound Engineer เก่งๆ สามารถ balance ระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะได้อย่างลงตัว" 
พูดง่ายๆว่า การที่จะเป็น "Sound Guys" ชั้นเยี่ยม จะต้องเข้าใจศิลปะและนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ โดยที่ไม่ทำลายศิลปะนั้น 

ที่ทำงานของ "Sound Guy"

1. Recording Studio
2. Post-Production
3. Live Concert
4. Radio
5. Broadcasting
6. Game
7. Film and Advertisement
8. Concert Hall , Music Auditorium

งานของพวกเรามันกว้างมากๆ....กว้างพอๆกับสิ่งที่จะเราจะต้องเรียน !!!

ร่ายมาซะยาว หวังว่าจะพอได้แนวคิดกันไปบ้างนะครับ

ทีนี้…สำหรับพี่ๆน้องๆที่อยากจะเรียนในด้านนี้ ควรจะรู้เรื่องอะไรบ้างล่ะ
1. Sound and Acoustic
2. Basic Electronics and Basic Computer
3. 
Music Theory
4. 
Connector
5. Signal Flow
6. Analog & Digital Recording
7. Signal Processor
8. Microphone Placement
9. Basic Sound Synthesis  
10.การฟังเพลงให้เป็น มีรสนิยมการฟังที่ดี

        แต่เรื่องของการมิกซ์ให้ดี การอัดเสียงให้ดี การแต่งเพลงให้ดี การสังเคราะห์เสียงได้ดี เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ โดยอาศัยทฤษฎีและความเข้าใจ 10 ข้อข้างบนนี้ อย่าเพิ่งท้อกันซะก่อนนะครับ พวกเรา Horse Power Production ยินดีที่จะช่วยพาคุณไปให้ถึงฝั่งฝันอยู่แล้ว :)

จะเตรียมตัวอย่างไรดี??

1. ใช้แนวคิดนี้เสมอ “Input - Processor - Output” หรือ เข้าทางไหนและเข้าเป็นอะไร - แล้วผ่านกระบวนการอะไร - ออกมาทางไหนและออกมาเป็นอะไร พูดได้เลยว่า แทบๆจะทุกอย่างในโลกของ Sound Guys ที่ต้องใช้วิธีคิดนี้ เพราะฉะนั้น เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ คิดให้เป็นระบบ!
2. ดูหนังฟังเพลง อย่าสนใจแค่เนื้อหา! ลองใส่ใจกับรายละเอียดอื่นๆบ้าง เช่น เสียงดนตรีประกอบหนังที่เรากำลังได้ยินอยู่มันเป็นเครื่องดนตรีอะไร ทำนองเป็นแบบไหน ละเอียด ซับซ้อน หรือแค่โน้ตง่ายๆ? ลองฟังมิติของเพลง เช่น กีต้าร์มันอยู่ฝั่งไหนนะ เพลงนี้ Bass มันบวมไปรึเปล่านะ? เพลงนี้มิติมันดีมากเลยนะ , เราว่าเพลงนี้ นักร้องใช้ Autotune เยอะมากๆเลยนะ ฯลฯ
3. ติดตามบล็อคของเพจของ Horse Power Production เพราะที่นี่ เราจะแชร์ข่าวสาร เรื่องราวต่างๆและยังมีบล็อคที่เราจะเขียนเกี่ยวกับทุกเรื่องที่คนจะเป็น "Sound Guys" ควรรู้เลย! 


สุดท้าย ขอฝากข้อคิดดีๆ เอาไว้ ว่า

“There are no rules, just knowledge, good taste and experimentation.” - Michael Pollard ; Live Sound Engineer.

ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก Ocean way Studio และ livedesignonline.com นะครับ


ไว้พบกันใหม่ในโพสต์ต่อๆไปนะครับ Sound Guy ทุกท่าน :)
ขอบคุณที่ติดตามเรา Horse Power Production


By Sound Guy

No comments:

Post a Comment